พระวินัยปิฎก มหาวรรค [6. เภสัชชขันธกะ] 182. เกณิยชฏิลวัตถุ
พระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้เกณิยะเห็นชัด ชวนให้อยากรับไปปฏิบัติ เร้าใจ
ให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริงด้วยธรรมีกถา
ลำดับนั้น เกณิยชฎิลผู้ซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้เห็นชัด ชวนให้อยาก
รับไปปฏิบัติ เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริงด้วยธรรมีกถา
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ขอพระโคดมผู้เจริญพร้อมกับภิกษุสงฆ์ทรงรับ
ภัตตาหารของข้าพระองค์เพื่อเจริญกุศลในวันพรุ่งนี้เถิด
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เกณิยะ ภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ มีจำนวน 1,250 รูป
และท่านเองก็เลื่อมใสยิ่งนักในหมู่พราหมณ์
แม้ครั้งที่ 2 เกณิยชฎิลก็กราบทูลนิมนต์ว่า พระโคดมผู้เจริญ แม้ภิกษุ
สงฆ์หมู่ใหญ่ มีจำนวน 1,250 รูป และข้าพระองค์ เลื่อมใสยิ่งนักในหมู่พราหมณ์
ก็จริง ถึงกระนั้น ขอพระโคดมผู้เจริญพร้อมกับภิกษุสงฆ์ทรงรับภัตตาหารของ
ข้าพระองค์เพื่อเจริญกุศลในวันพรุ่งนี้เถิด
พระผู้มีพระภาคทรงรับนิมนต์โดยดุษณีภาพ
ครั้งนั้น เกณิยชฎิลทราบการที่พระผู้มีพระภาคทรงรับนิมนต์แล้ว ได้ลุกจาก
อาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณแล้วกลับไป
ทรงอนุญาตน้ำอัฏฐบาน
ต่อมา พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมีกถาเพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ รับสั่งกับ
ภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำอัฏฐบาน คือ
1. น้ำมะม่วง 2. น้ำหว้า
3. น้ำกล้วยมีเมล็ด 4. น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด
5. น้ำมะซาง 6. น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น
7. น้ำเหง้าบัว 8. น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่
พระวินัยปิฎก มหาวรรค [6. เภสัชชขันธกะ] 182. เกณิยชฏิลวัตถุ
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำผลไม้ทุกชนิด เว้นน้ำต้มเมล็ดข้าวเปลือก ภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำใบไม้ทุกชนิด เว้นน้ำผักดอง ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
น้ำดอกไม้ทุกชนิด เว้นน้ำดอกมะซาง ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำอ้อยสด
คืนนั้น เกณิยชฎิลให้เตรียมโภชนาหารอันประณีตที่อาศรมของตนแล้วให้คนไป
กราบทูลภัตกาลพระผู้มีพระภาคว่า ถึงเวลาแล้ว พระพุทธเจ้าข้า ภัตตาหาร
เสร็จแล้ว
ครั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงครองอันตรวาสกแล้ว ทรงถือบาตร
และจีวร เสด็จไปที่อาศรมของเกณิยชฎิล ประทับนั่งบนอาสนะที่จัดถวายพร้อม
ด้วยภิกษุสงฆ์ เกณิยชฎิลได้นำของเคี้ยวของฉันอันประณีตประเคนภิกษุสงฆ์มี
พระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานด้วยมือของตนเอง กระทั่งพระผู้มีพระภาคเสวยเสร็จ
ห้ามภัตตาหารแล้ว ทรงละพระหัตถ์จากบาตรแล้ว จึงนั่งเฝ้าอยู่ ณ ที่สมควร
พระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนาแก่เกณิยชฎิลด้วยพระคาถานี้ว่า
ยัญพิธีมีการบูชาไฟเป็นประธาน
สาวิตตีฉันท์เป็นประธานของพระเวท1
พระเจ้าแผ่นดินเป็นประธานของประชาราษฎร์
มหาสมุทรเป็นประธานของแม่น้ำ
ดวงจันทร์เป็นประธานแห่งดาวนักษัตร
ดวงอาทิตย์เป็นประธานแห่งสิ่งที่ร้อน ฉันใด
พระสงฆ์ก็เป็นประธานของทายกผู้มุ่งบุญถวายทานอยู่ ฉันนั้น
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคครั้นทรงอนุโมทนาเกณิยชฎิลเสร็จ จึงทรงลุกจาก
อาสนะแล้วเสด็จกลับ
เชิงอรรถ :
1 พวกพราหมณ์เมื่อจะสวดสาธยายพระเวท ย่อมสวดสาวิตตีฉันท์ก่อน ฉันท์นี้จึงชื่อว่าเป็นบทนำ เป็นบท
เริ่มต้นแห่งพระเวท (สารตฺถ.ฏีกา 3/300/400)